“ศุภมาส” เตือนภาคใต้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องช่วงปลายเดือน พ.ย. - ธ.ค. เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ยกระดับเตรียมความพร้อมรับมือ ส่ง Mobile War Room และทีมผู้พันวิทย์ อว. ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สนับสนุนศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย
“ศุภมาส” เตือนภาคใต้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องช่วงปลายเดือน พ.ย. - ธ.ค. เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ยกระดับเตรียมความพร้อมรับมือ ส่ง Mobile War Room และทีมผู้พันวิทย์ อว. ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สนับสนุนศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าว “อว. เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย สนับสนุนศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้” และเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถ Mobile War Room พร้อม ทีมผู้พันวิทย์ อว. และ ทีมปฏิบัติการสสน. ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง และสนับสนุนการรับมืออุทกภัยร่วมกับศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ โดยมี ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) พร้อมด้วย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วม
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม “อว. เพื่อประชาชน” ตั้งแต่เหตุการณ์อุทกภัยภาคเหนือเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การเฝ้าระวัง แจ้งเตือน จนถึงฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีคณะทำงาน 3 ชุดขับเคลื่อนการดำเนินงาน ได้แก่ คณะทำงานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ คณะทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และคณะทำงานฟื้นฟูผู้ประสบภัย
จากการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดของคณะทำงานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์โดย สสน. พบว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าจะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม มีความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้ อว. ดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน โดยจัดส่งหน่วยวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำเคลื่อนที่ หรือ Mobile War Room ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทีมปฏิบัติการจาก สสน. และทีมผู้พันวิทย์ อว. ซึ่งเป็นทีมปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วที่มีภารกิจสำคัญในการแจ้งเตือนและให้คำแนะนำประชาชน พร้อมประสานงานและร่วมปฏิบัติการกับหน่วยงานราชการและภาคประชาสังคมในพื้นที่ เพื่อให้การทำงานในภาคใต้สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รมว.อว. กล่าวต่อว่า การปฏิบัติงานของทีม Mobile War Room มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยได้มอบหมายให้ สสน. เป็นหน่วยงานหลักของ อว. ในการสนับสนุนการแจ้งเตือนสถานการณ์ให้กับพี่น้องประชาชนภาคใต้ รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคใต้ในฐานะ อว. ส่วนหน้า เข้าร่วมประสานงานและรับข้อมูลสถานการณ์น้ำจาก สสน. เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ThaiWater ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“การดำเนินงานครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ อว. ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ และเป็น “อว. เพื่อประชาชน” อย่างแท้จริง ดิฉันและบุคลากรของ อว. พร้อมทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์”นางสาวศุภมาส กล่าว