ไทย-จีน เปิดตัวกล้องโทรทรรศน์แบบวีกอส (VGOS) แห่งแรกในไทยที่เชียงใหม่ สำหรับศึกษาการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก คาดการณ์แผ่นดินไหวในไทย และร่วมวิจัยกับเครือข่ายทั่วโลก

ไทย-จีน เปิดตัวกล้องโทรทรรศน์แบบวีกอส (VGOS) แห่งแรกในไทยที่เชียงใหม่ สำหรับศึกษาการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก คาดการณ์แผ่นดินไหวในไทย และร่วมวิจัยกับเครือข่ายทั่วโลก

   เมื่อ : 26 พ.ค. 2568

16 พฤษภาคม 2568 - เชียงใหม่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.​หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีเปิดกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส (VGOS: VLBI Geodetic Observing System Radio Telescope) ขนาด 13 เมตร แห่งแรกของไทย ณ หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ. เชียงใหม่ ได้รับการสนับสนุนจากหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ ภายใต้สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เพื่อใช้ศึกษาวิจัยด้านภูมิมาตรศาสตร์ การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก รวมทั้งคาดการณ์แผ่นดินไหว 

พิธีเปิดดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นประธานฝ่ายไทย และ ศาสตราจารย์ ดร. ติง ชื่อเปียว (Prof. DING Chibiao) รองผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เป็นประธานฝ่ายจีน มี ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Prof. SHEN Zhiqiang ผู้อำนวยการหอดูดาว
เซี่ยงไฮ้ นางสาวพสุภา ชินวรโสภาค อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง  Mr. Ma Minggeng ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย  Mr. Chen Haiping กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายดุษฎี พรพระแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงผู้บริหาร นักวิจัย วิศวกร ของหน่วยงานร่วมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดกล้องโทรทรรศน์ดังกล่าว

ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า พิธีเปิดใช้งานกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาด 13 เมตร แห่งแรกของประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งเป็นก้าวสำคัญของวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ไทย และยังถือเป็นโอกาสสำคัญในการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้อีกด้วย ประเทศไทยภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขยายองค์ความรู้ในด้านภูมิมาตรศาสตร์ (Geodesy) ของโลก และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าวิทยาศาสตร์นั้นไร้พรมแดน ความร่วมมือด้านการวิจัยกับนานาชาติไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ แต่ยังจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลกร่วมกัน

ความก้าวหน้าร่วมกันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความร่วมมือระหว่างประเทศ และหวังว่ากล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาด 13 เมตร ภายใต้ความร่วมมือไทย-จีนนี้ จะไม่เป็นเพียงแค่โครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือ ความมุ่งมั่นในการขยายขีดความสามารถด้านการวิจัย  การพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือขั้นสูง การวิเคราะห์ข้อมูล และภารกิจทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ร่วมกันในอนาคต เพื่อการค้นพบองค์ความรู้ใหม่ บรรลุเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์อันยิ่งใหญ่ร่วมกัน และเพื่อความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งยิ่งขึ้นระหว่างประเทศไทยและจีน

ในอนาคตยังมีแผนที่จะจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมไทยและจีน ด้านดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางสำหรับการวิจัย การฝึกอบรม และการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน การรวมทรัพยากร
และความเชี่ยวชาญเข้าด้วยกัน จะช่วยให้พัฒนาขีดความสามารถด้านต่าง ๆ ทั้งด้านดาราศาสตร์ ภูมิมาตรศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนาเครื่องมือ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะนำพาทั้งสองประเทศไปสู่การค้นพบองค์ความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ในอนาคต

ศาสตราจารย์ ดร. ติง ชื่อเปียว รองผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในวันนี้ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง NARIT และหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน กระทรวง อว. และสถานทูตจีน ความร่วมมือนี้เป็นการทำงานร่วมกันในหลายสาขา ทั้งดาราศาสตร์ ธรณีวิทยา และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
จนนำไปสู่ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ตอกย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีนในด้านวิทยาศาสตร์ และยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี รวมถึงการสร้างบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาด 13 เมตร ณ จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จากความร่วมมืออย่างใกล้ชิด แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งภาวะการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้การก่อสร้างและขนส่งหยุดชะงักไปชั่วขณะ ตลอดจนการสร้าง ประกอบ ติดตั้งและทดสอบระบบ  หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากล้องโทรรศน์วิทยุแห่งนี้ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคต

ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาด 13 เมตร จะป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญทางวิทยาศาสตร์ของไทย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมืออันแข็งแกร่ง และความสำเร็จระหว่าง NARIT ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวง อว. และหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ ภายใต้สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ปัจจุบันเรากำลังดำเนินการสร้างกล้องโทรทรรศน์
วีกอสแบบเดียวกันนี้เป็นตัวที่สองที่ จ. นครศรีธรรมราช ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของไทยด้านดาราศาสตร์วิทยุ ภูมิมาตรศาสตร์ (Geodesy) และเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่าย VGOS ทั่วโลก

ขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินการในด้านต่าง ๆ ในพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์แห่งนี้ 

กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร เป็นความร่วมมือระหว่าง สดร. และหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ ภายใต้สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติรับผิดชอบจัดหาพื้นที่ เพื่อสร้างอาคารรองรับกล้องโทรทรรศน์วิทยุ ส่วนหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ รับผิดชอบการผลิต และประกอบกล้องโทรทรรศน์วิทยุ รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณ มูลค่ารวมกว่า 120 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 2560 สร้างและติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อปี 2567 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในปีนี้  ปัจจุบัน กำลังดำเนินการก่อสร้างแห่งที่สองภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ. นครศรีธรรมราช หากแล้วเสร็จทั้งสองแห่ง จะสามารถศึกษาการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลพยากรณ์การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกได้ 

กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส เป็นกล้องสำหรับศึกษาด้านยีออเดซี (Geodesy) หรือ ภูมิมาตรศาสตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการวัดและทำความเข้าใจรูปทรงเรขาคณิตและสัณฐานของโลก 
ตำแหน่งในอวกาศ และสนามโน้มถ่วง พร้อมทั้งศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลกเหล่านี้ เมื่อเวลาผ่านไป หรืออาจวัดเพื่อเทียบเคียงกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ โดยจะทำการเก็บข้อมูลผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณย่านความถี่เอสและเอกซ์(S-/X-band) ช่วงคลื่นความถี่ 2-14 GHz ควบคู่กับการสังเกตการณ์ด้วยเทคนิคแทรกสอดระยะไกล หรือ VLBI (Very Long Baseline Interferometry) โดยใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุสองตัวขึ้นไปเก็บข้อมูลในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้พิกัดที่แม่นยำถึงระดับมิลลิเมตร ซึ่งสามารถนำไปใช้ตรวจสอบการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกได้ (Tectonic Plate Motion) ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์แผ่นดินไหว อีกทั้งยังสามารถประมวลผลลัพธ์ต่อจนได้ตัวแปรต่าง ๆ ที่บ่งบอกการวางตัวของโลกในอวกาศ (Earth Orientation Parameters) ไปจนถึงความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก

โอกาสนี้ สดร. ​ได้นำผู้มีเกียรติเข้าเยี่ยมชมการทำงานของกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาด 13 เมตร และกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ภายในหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ รวมถึงเดินทางเข้าเยี่ยมชมงานพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรมขั้นสูง เช่น ห้องปฏิบัติการประกอบและทดสอบดาวเทียม ห้องปฏิบัติการพัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณคลื่นวิทยุ ห้องปฏิบัติการขึ้นรูปชิ้นงานความละเอียดสูง ระบบควบคุมกล้องโทรทรรศน์ระยะไกล และห้องปฏิบัติการเครื่องเคลือบกระจก รวมถึงจัดประชุมหารือความร่วมมือ China – Thailand Geodesy Capacity Development Workshop แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านยีออเดซีและการสังเกตการณ์ด้วยเทคนิคแทรกสอดระยะไกล ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ ด้วย

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ