ชวนทุกคนที่มีหัวใจนวัตกรรมร่วมงาน SITE 2025 วันที่ 4 – 6 ก.ค.2568 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เผย NIA กำลังวางรากฐานระบบนิเวศที่ “เชื่อมไทยกับโลก” ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปและเอเชียขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเร่งผลักดันสตาร์ตอัพไทยสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 98 แห่งทั่วโลก ด้านนายกสมาคมการค้าสตาร์ตอัพไทย (TSA) ชี้วันนี้สตาร์ตอัพไทยต้องกล้าฝันใหญ่

ชวนทุกคนที่มีหัวใจนวัตกรรมร่วมงาน SITE 2025 วันที่ 4 – 6 ก.ค.2568 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เผย NIA กำลังวางรากฐานระบบนิเวศที่ “เชื่อมไทยกับโลก” ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปและเอเชียขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเร่งผลักดันสตาร์ตอัพไทยสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 98 แห่งทั่วโลก ด้านนายกสมาคมการค้าสตาร์ตอัพไทย (TSA) ชี้วันนี้สตาร์ตอัพไทยต้องกล้าฝันใหญ่

   เมื่อ : 19 มิ.ย. 2568

วันที่ 19 มิ.ย.นายปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในการเสวนาพิเศษหัวข้อ “Accelerating Innovation Through Global Partnerships” ในงานแถลงข่าวการจัดงาน “Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025)” เวทีที่รวมพลังนวัตกรรมและสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 4 – 6 ก.ค.2568 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน  ภายใต้แนวคิด “Global Innovation Partnership – AI & Sustainability: The Next Era of Innovation” ว่า นวัตกรรมยุคนี้ไม่มีเส้นแบ่งประเทศอีกต่อไป สิ่งที่ NIA กำลังทำ ไม่ใช่แค่ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีโอกาส แต่คือการวางรากฐานของระบบนิเวศที่ “เชื่อมไทยกับโลก” อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปและเอเชีย เราไม่ได้มองแค่นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่กำลังสร้างโครงสร้างที่เอื้อต่อการเติบโตระยะยาว เพื่อให้สตาร์ตอัพไทยเติบโตได้ไกลขึ้น อย่างยั่งยืนกว่าเดิม

“ผมอยากชวนทุกคนที่มีหัวใจนวัตกรรมมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระดับโลกพร้อมพบกับผู้คิด ผู้สร้างและผู้ลงทุนในระบบนวัตกรรมโลกได้ที่งาน  SITE 2025  ระหว่างวันที่ 4 – 6 ก.ค.2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน” นายปริวรรต กล่าว

ด้าน นางสาลินี ผลประไพ  รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กระทรวงการต่างประเทศจึงเร่งผลักดันสตาร์ตอัพไทยสู่เวทีโลก ผ่านเครือข่ายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 98 แห่งทั่วโลก รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เช่น NIA  BOI  EEC  DEPA และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การเจรจาการค้า การเปิดตลาดและการจับคู่ธุรกิจ พร้อมกันนี้ ยังมีนโยบายวีซ่าเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพจากต่างประเทศเข้ามาเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมในไทยอย่างเป็นระบบ

ขณะที่นายธนพงษ์ ณ ระนอง นายกสมาคมไทยผู้ประกอบการธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) กล่าวว่า Global Partnership หรือพันธมิตรระดับโลก คือหัวใจของการลงทุนยุคใหม่ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างการ Exit ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม AI และเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก นักลงทุนสมัยนี้มองหาสตาร์ตอัพที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโลกได้จริง

นายธนวิชญ์ ต้นกันยา นายกสมาคมการค้าสตาร์ตอัพไทย (TSA) กล่าวถึงความพร้อมของสตาร์ตอัพไทยว่า วันนี้สตาร์ตอัพไทยต้องกล้าฝันใหญ่ เปิดรับมุมมองใหม่จากนานาชาติ และพัฒนาทักษะ Pitching ที่ตอบโจทย์นักลงทุน ซึ่ง SITE 2025 ถือเป็นสนามจริงในการทดลอง เชื่อมต่อ และต่อยอดเครือข่ายระดับสากล

งาน  SITE 2025 จัดระหว่างวันที่ 4 – 6 ก.ค.2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนได้ที่: https://site.nia.or.th ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: NIA Thailand 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ