“Skill Shift: Build Smart. Work Smarter.” มจธ. ผนึกกำลังธนาคารไทยพาณิชย์ปั้นแรงงานไทยพร้อมรับมืออนาคตการทำงานยุค AI

“Skill Shift: Build Smart. Work Smarter.” มจธ. ผนึกกำลังธนาคารไทยพาณิชย์ปั้นแรงงานไทยพร้อมรับมืออนาคตการทำงานยุค AI
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จับมือธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เปิดตัวโครงการ “Skill Shift: Build Smart. Work Smarter. พลิกทักษะ สู่การทำงานอัจฉริยะ” ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัลเชิงปฏิบัติการ โดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อยกระดับขีดความสามารถของแรงงานไทยให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุค AI Disruption

นายวรวัจน์ สุวคนธ์ Chief People Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญเรื่องการพัฒนาทักษะดิจิทัลของกำลังคนในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการทำงาน โดยเฉพาะทักษะการใช้ AI เพื่อการสื่อสาร วิเคราะห์ข้อมูลและบริหารองค์ความรู้ขององค์กร ไปจนถึงการสร้างระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยทำงาน หากองค์กรไม่ปรับตัว อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อลงทุนในการพัฒนากำลังคนอย่างมีมาตรฐาน จึงยิ่งมีความจำเป็นในยุคนี้

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า การจับมือระหว่าง มจธ.และธนาคารไทยพาณิชย์ครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจการเงินและภาคการศึกษาเพื่อบูรณาการการศึกษาแบบ Micro-Credentials ที่มีคุณภาพมาตรฐานกับการทำงานในองค์กร สร้าง ”กำลังคนดิจิทัล” ทักษะสูงสู่ตลาดแรงงาน สอดคล้องกับนโยบายมหาวิทยาลัยในการส่งเสริม Demand-Driven Education ร่วมมือกับเอกชนในลักษณะ Co-Creation เพื่อสร้างหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

รศ.ดร.สยาม เจริญเสียง รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายวิชาการ มจธ. กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้บุกเบิกแนวคิดการศึกษาแบบ Micro-Credentials และมุ่งมั่นที่จะให้เป็นกลไกสำคัญในการ Upskill และ Reskill คนทำงาน โดยหัวใจสำคัญของ Micro-Credentials คือการรับรองความสามารถ (Competency) ที่เฉพาะเจาะจงและพิสูจน์ได้ผ่านหลักฐานการทำงาน (Work Evidence) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะอย่างรวดเร็ว เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเสริมสร้างทักษะทางด้านปัญญาประดิษฐ์ให้กับแรงงานไทยในภาคธนาคารและส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Experiential Learning ให้คนทำงานสามารถสร้างชิ้นงานที่มีคุณค่าให้กับองค์กรและนำมาประเมินเพื่อรับ Digital Badge จากมจธ. เป็น Micro-Credentials ที่รับรองและอ้างอิงสมรรถนะความสามารถได้

ดร. วราสิณี ฉายแสงมงคล หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้และนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และอาจารย์ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม ในฐานะ Program Director ของหลักสูตร Skill Shift กล่าวว่า “ในโครงการนี้ มจธ. รับบทบาทสำคัญในการออกแบบหลักสูตรให้ตรงความต้องการขององค์กร โดยแบ่งทักษะเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) AI-Powered Content & Design พลิกทักษะการออกแบบด้วยพลัง AI 2) Automation & Work Efficiency พลิกวิธีการทำงาน สู่ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ 3) Data Thinking & Intelligent พลิกมุมมอง ใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด และ 4) Digital Solution Design พาทีมสร้างโซลูชันตอบโจทย์องค์กร จุดเน้นสำคัญคือการเรียนแล้วสามารถสร้างผลงานจริงที่ตอบโจทย์องค์กรได้ทันที (work evidence) พร้อมทั้งมีระบบประเมินสมรรถนะที่ชัดเจนอย่าง Micro-Credentials ที่เป็นระบบรับรองความสามารถที่เฉพาะเจาะจง ผ่านการแสดงหลักฐานการทำงานจากความสามารถ เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์การทำได้จริง ผู้ที่ผ่านการรับรองจะได้รับ Digital Badges เป็นหลักฐานยืนยัน”
“กลุ่มทักษะทั้ง 4 นี้เป็นที่ต้องการของทุกองค์กรที่ต้องยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทักษะเหล่านี้ไม่สามารถสร้างได้ด้วยการเรียนรู้เชิงทฤษฎี แต่ต้องมีเฟรมเวิร์คที่ถูกต้อง ฝึกลงมือทำ และ AI คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยลดช่องว่าง ให้คนทำงานสามารถบรรลุเป้าหมายในการเรียนรู้ได้เร็วขึ้น และสามารถพัฒนาทักษะจนเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญได้เร็วขึ้น แม้จะไม่มีพื้นฐานมาก่อน” ดร.วราสิณี กล่าว
“องค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการดำเนินงานครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับศักยภาพแรงงานในกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่การเงิน การผลิต การบริการ ไปจนถึงธุรกิจดิจิทัลและสตาร์ทอัพ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นหลักสูตรหรือกิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะการทำงานให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจได้ในอนาคต ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ที่ทางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นและเตรียมพัฒนาให้เกิดการขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงงานที่มีความพร้อมและแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล” อธิการบดี มจธ. กล่าว
สุดท้ายนี้ ดร.วราสิณี ตอกย้ำว่า “AI ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่คือโอกาสที่จะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และสร้างสรรค์มากขึ้น ประเทศไทยแม้ไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี แต่เราสามารถสร้างความได้เปรียบจากองค์ความรู้เฉพาะทางและการประยุกต์ใช้ AI ให้เข้ากับบริบทของเราเอง หากเราลงทุนพัฒนาคนวันนี้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในวันข้างหน้าได้”
หากภาคเอกชนหรือหน่วยงานใดสนใจให้มจธ. ออกแบบการเรียนรู้และฝึกอบรมให้สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ AI Learning & Innovation Exchange สวท. : 0 2470 9671 ในวันและเวลาราชการ