กระทรวง อว. โดย สอวช. ชู ใช้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย เร่งพัฒนาคนและเทคโนโลยี ปรับตัวรับกติกาโลก สู่เศรษฐกิจฐานความรู้อย่างยั่งยืน

กระทรวง อว. โดย สอวช. ชู ใช้วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย เร่งพัฒนาคนและเทคโนโลยี ปรับตัวรับกติกาโลก สู่เศรษฐกิจฐานความรู้อย่างยั่งยืน

   เมื่อ : 22 ต.ค. 2568

(21 ตุลาคม 2568) ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิทยาศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ : พลังปัญญา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ในงานสัมมนาเชิงวิชาการ “127 ปี ชาตกาล ดร.ตั้ว ลพานุกรม : จุดประกายวิทยาศาสตร์ สร้างอนาคตชาติ” จัดโดย มูลนิธิ ดร.ตั้ว ลพานุกรม ร่วมกับ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ณ ห้องประชุมภูมิบดินทร์ ชั้น 6 อาคารสถาบันพัฒนานักวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ

ดร.สุรชัย ได้สะท้อนให้เห็นความท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ 1. การค้าระหว่างประเทศ จากการเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) จึงต้องให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของแต่ละประเทศ ทั้งกลุ่มประเทศมหาอำนาจ และประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย ประเด็นต่อมาคือเรื่องห่วงโซ่มูลค่าโลก (Global Value Chain) ที่หลังจากเกิดสถานการณ์โควิดส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานเปลี่ยนไป และอีกประเด็นที่สำคัญคือ กฎระเบียบทางการค้า อาทิ EU Green Deal ซึ่งเป็นนโยบายของสหภาพยุโรปในการมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน กลไกการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน หรือ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) มาตรการกำหนดราคาสินค้านำเข้าของสหภาพยุโรป หรือการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (EU Regulation on Deforestation-free products: EUDR) ของสหภาพยุโรป ฯลฯ จากประเด็นเหล่านี้ หากไทยไม่ปรับตัวก็จะขายสินค้าไม่ได้และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามมา 2. เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ผลิตภาพปัจจัยการผลิตรวม (Total Factor Productivity) ต่ำ เนื่องจากเทคโนโลยีล้าหลัง ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น Smart Manufacturing AI และ Synthetic Biology 3. เสถียรภาพทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีความไม่แน่นอน และ 4. เศรษฐกิจในประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง มีปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทุนมนุษย์

ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า ดร.สุรชัย กล่าวว่า สอวช. ได้ออกแบบนโยบายเชิงบูรณาการในหลายด้าน โดยยกตัวอย่างนโยบายที่สำคัญใน 5 นโยบาย ได้แก่ 1. การส่งเสริมมหาวิทยาลัยจัดตั้ง Holding Company ปลดล็อกข้อจำกัดให้มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของรัฐร่วมลงทุนกับเอกชนโดยตรง ต่อยอดจากงานวิจัยให้ไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยจัดตั้ง Holding Company แล้ว 12 แห่ง มีทุนจดทะเบียนกว่า 500 ล้านบาท และเกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพมากกว่า 100 บริษัท 2. การพัฒนากำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์ โดยมีเป้าหมายผลิตและพัฒนากำลังคน 86680 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี ตั้งศูนย์ฝึกอบรม 6 แห่ง ให้สามารถผลิตคนตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมได้ 3. หลักสูตร Higher Education Sandbox เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ลดขั้นตอนการจัดทำหลักสูตรปรับระบบการจัดการศึกษาร่วมกับภาคอุตสาหกรรม โดยมีหลักสูตรใหม่ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 24 หลักสูตร 4. การผลักดันส่งเสริมอุตสาหกรรม Future Food สอวช. ได้สนับสนุนการทำงานของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการจัดทำข้อมูล Positive List หรือ บัญชีรายการกล่าวอ้างทางสุขภาพของสารสำคัญ (Health Claims) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้บนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือในการโฆษณาได้ทันที รวมถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกลุ่มอาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ  (Foods for Special Dietary Use: FSDU) และ 5. การจัดทำ E- Commercial and Innovation Platform ขยายตลาดสินค้านวัตกรรม ยกระดับผู้ประกอบการนวัตกรรมให้เข้าถึงตลาดออนไลน์ระดับโลก ใช้ข้อมูลและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของกลุ่ม SMEs

ดร.สุรชัย กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) ในระยะต่อไป ใน 5 แนวทาง ได้แก่ 1. กรอบนโยบายด้านอุดมศึกษา พบว่ามีช่องว่าง คือ 1. สัดส่วนการจ้างงานกำลังคนทักษะสูงในตลาดแรงงาน 2. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ 3. ช่องว่างทักษะแรงงาน (Skill Gap) จึงต้องมีการศึกษาทิศทางความต้องการกำลังคน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และความต้องการในบริบทเชิงพื้นที่และสังคม มีแนวทางจัดทำแผนและนำร่องกลไกการพัฒนากำลังคนทักษะสูงตามความต้องการของประเทศ รวมถึงจัดทำข้อเสนอการปรับบทบาทสถาบันอุดมศึกษา และระบบนิเวศการพัฒนากำลังคนทักษะสูง 2. กรอบนโยบายด้าน ววน. มีเป้าหมายหลักในการใช้ ววน. เพื่อการรับมือปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน ววน. กับการพัฒนาสังคม ชุมชน และพื้นที่ เพื่อสร้างสังคมปลอดภัย สงบสุข และเท่าเทียม และ ววน. เพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง 3. ตัวอย่างกรอบการพัฒนาอุตสาหกรรม: เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง พัฒนาอุตสาหกรรม Semiconductor และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4. การยกระดับ SMEs สู่ผู้ประกอบการธุรกิจฐานนวัตกรรม หรือIDEs (Innovative Driven Enterprises) สนับสนุน SMEs เพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยี ยกระดับผลิตภาพการผลิต เพิ่มคุณภาพและต่อยอดนวัตกรรมและ 5. การพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ มีเป้าหมายในการยกระดับมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ สร้างโอกาสที่เป็นธรรม และเพิ่มการจ้างงานคุณภาพและเศรษฐกิจฐานความรู้ในภูมิภาค