สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลกยามราตรีในงาน “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย”
สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองมรดกโลกยามราตรีในงาน “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย”
วันที่ 27 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรี “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” ณ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางสาวซาบีดา กล่าวว่า อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลก จากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) มาตั้งแต่ พุทธศักราช 2534 โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ในแต่ละปี มีผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างประเทศไม่ต่ำกว่าปีละสามล้านคน ก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวแก่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและประเทศไทย ปีละหลายหมื่นล้านบาท และเพื่อเป็นการเพิ่มมิติการท่องเที่ยวโบราณสถานในจังหวั พระนครศรีอยุธยา กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรจึงได้จัดโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรี กิจกรรม “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศโบราณสถานอันสวยงามยามค่ำคืนของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้ พร้อมทั้งน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยกำหนดให้โบราณสถานวัดไชยวัฒนารามซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระตำหนักสิริยาลัยเป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลัก ร่วมด้วยโบราณสถานวัดพระราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา แบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ช่วงเวลา ได้แก่ วันที่ 26 ธันวาคม 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569 เป็นเวลา 10 วันต่อเนื่อง และวันที่ 9 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2569 ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. – 21.30 น. ซึ่งนอกจากจะได้ชมไฟประดับโบราณสถานแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
วัดไชยวัฒนาราม มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นไทยโบราณสลับสับเปลี่ยนกันไป เช่น การแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ละครนอก ละครพันทาง รำวงย้อนยุค การแสดงดนตรีไทย ดนตรีสากล การขับร้องเพลงลูกทุ่ง การลอยประทีปถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระพันปีหลวง เลือกซื้อสินค้าที่ตลาดโบราณนานาชาติ ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ยังได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นมงคลเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2569 อีกด้วย
โบราณสถานวัดพระราม แต่งชุดไทยชมไฟประดับโบราณสถานและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม Night at the Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม พบกับกิจกรรมชาววังพาชม ชาววังชวนขึ้นหอ สายมู ยูต้องมา และการสาธิตงานศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 21.00 น.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ร่วมจัดกิจกรรมในภาคกลางวัน โดยจัดแสดงนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมสัญจร จากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2568 - วันที่ 4 มกราคม 2569 และจัดกิจกรรมการเสวนาทางวิชาการ ในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 13.00 น. – 16.00 น. นอกจากนี้ ในวันที่ 11 มกราคม 2569 ยังมีการจัดกิจกรรมการประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ปีที่ 2 พร้อมนิทรรศการโบราณวัตถุและของสะสม การออกร้านของที่ระลึก และการสาธิตการคัดลอกตำราแมวและฤกษ์การเดินเรือ จากสมุดไทยฉบับระยอง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.00 น.
นางสาวซาบีดา กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวโบราณสถานในภาคกลางคืน ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการด้านที่พัก ร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริม “พลังวัฒนธรรม” ให้เกิดเป็น “รายได้จริง” ภายใต้แนวคิด “ไท ไทย” ยกระดับและส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางมรดกศิลปวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงง่ายมากขึ้น จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกิจกรรม“อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยพร้อมแต่งชุดไทย ชุดนานาชาติ เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยามค่ำคืน