กรุงเทพฯ 12 มิถุนายน 2567 – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติกับ Asia Berlin Forum e.V. หรือ ABF เพื่อร่วมกันส่งเสริมการสร้างเครือข่ายนวัตกรรม ส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจ และสร้างโอกาสการร่วมลงทุน การพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence; AI) ตลอดจนการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ระบบนิเวศสตาร์ทอัพ ระหว่างประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ NIA ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ “ชาตินวัตกรรม” คือการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับต่างประเทศ หรือการทูตนวัตกรรม (Innovation Diplomacy) ดังนั้น NIA จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเอเชียเบอร์ลิน เพื่อสร้างสะพานเชื่อมโยงโอกาสในการยกระดับนวัตกรรมไทยสู่ตลาดในภูมิภาคยุโรป โดย NIA และเอเชียเบอร์ลินมีเป้าหมายร่วมกัน ในการส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมผ่านกิจกรรมทางธุรกิจที่ช่วยเพิ่มโอกาส และขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี และมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม NIA จึงมุ่งผลักดันการใช้เทคโนโลยี AI ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมแก้ไขปัญหาความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ความร่วมมือกับเอเชียเบอร์ลินในครั้งนี้จึงถือเป็นยุทธศาสตร์ก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้

“ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือนี้ NIA จะสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพ ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากร แหล่งความรู้ และเครือข่ายที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในรูปแบบของกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เวิร์กช็อป โปรแกรมการให้คำปรึกษา การเยี่ยมชมแลกเปลี่ยน และการแข่งขันนวัตกรรม ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อบ่มเพาะศักยภาพและกระตุ้นการสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ซึ่ง NIA ไม่เพียงแค่สร้างสะพานเชื่อมระหว่างประเทศไทยและเบอร์ลินเท่านั้น แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นนวัตกรรม และขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ”

ด้านนายมาร์ติน รอชส์เชนเบิร์ก ผู้จัดการทั่วไป เอเชียเบอร์ลิน ฟอรั่ม (Asia Berlin Forum e.V.) กล่าวว่า เอเชียเบอร์ลินเป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานวุฒิสภาเบอร์ลิน (Berlin Senate Department) ทำหน้าที่ส่งเสริมการเข้าถึงระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่มีความเข้มแข็งของกรุงเบอร์ลิน ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายนักลงทุน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรุงเบอร์ลิน กับเมืองหลักในเอเชีย เช่น กรุงเทพฯ สิงคโปร์ และโตเกียว ซึ่งเบอร์ลินถือเป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่นหลายด้าน ได้แก่ ทุนทรัพย์: เบอร์ลินดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุน Venture Capital (VC) มากเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป รองจากลอนดอน บุคลากร: แรงงานในเบอร์ลินมีความหลากหลาย สร้างสรรค์ และมีทักษะสูง นวัตกรรม: เบอร์ลินเป็นเมืองชั้นนำในด้านอีคอมเมิร์ซ ฟินเทค อินชัวร์เทค การขนส่ง เทคโนโลยีชีวภาพ และสุขภาพดิจิทัล รวมถึงมีมหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยชั้นนำมากมาย ความหลากหลาย: เบอร์ลินเปิดรับวัฒนธรรมย่อยที่หลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา และเพศสภาพ ภาษาอังกฤษ: ระบบนิเวศสตาร์ทอัพมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้ง่ายต่อการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายชาวต่างชาติ นอกจากนี้ เบอร์ลินยังเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพ มีการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพใหม่ถึง 747 ราย ในปี 2021และมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นจำนวน 25 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 150000 คน สตาร์ทอัพในเบอร์ลินระดมทุนได้ 10.5 พันล้านยูโรจากรอบการลงทุน 503 รอบ ทั้งนี้ รอบการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี จำนวน 3 ใน 5 รอบเกิดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน

“ด้วยความได้เปรียบเหล่านี้ทำให้เมืองเบอร์ลินถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและกลุ่มสตาร์ทอัพของไทยที่ประสงค์จะขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดยุโรป ความร่วมมือกับ NIA ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเอเชีย และเบอร์ลิน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของเอเชียเบอร์ลิน เช่น กิจกรรม AsiaBerlin Investors Club เป็นการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนโอกาสการลงทุนและประสบการณ์การลงทุนระหว่างเอเชียและเยอรมนี ส่งเสริมการสร้างเครือข่าย การค้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และการร่วมลงทุนข้ามทวีป และกิจกรรม Expansion Lab เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการในเบอร์ลินได้ขยายเครือข่ายในเอเชีย ซึ่งนอกจากจะได้สร้างเครือข่ายแล้วยังได้รับข้อมูลเชิงลึกของระบบนิเวศในท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนี้ ทางเอเชียเบอร์ลิน ยังขอเชิญชวนสตาร์ทอัพไทยเข้าร่วมงาน AsiaBerlin Summit 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 - 29 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยการประชุมนี้ มีเป้าหมายในการสร้างการเชื่อมต่อและอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระบบนิเวศสตาร์ทอัพ เพื่อสะท้อนบทบาทของกรุงเบอร์ลินในฐานะประตูสู่ตลาดยุโรปและตลาดที่มีศักยภาพอื่น ๆ”