“รองเสนาธิการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ พื้นที่จังหวัดนครนายก”
“รองเสนาธิการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ พื้นที่จังหวัดนครนายก”
วันที่ 13 สิงหาคม 2567 เวลา 14.30 น. พลเรือโท ขวัญชัย อินกว่าง รองเสนาธิการทหารเรือ / รองเสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติภารกิจของหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำพร้อมรับฟังบรรยายสรุปภารกิจผลักดันน้ำ โดยมีนายสุภกิณห์ แวงขิน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ร่วมคณะตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ บริเวณจุดวางเรือผลักดันน้ำสะพานโยทะกา ตำบลบางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
ตามที่จังหวัดนครนายก ได้ทำหนังสือถึงกองทัพเรือ ขอรับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่อำเภอองครักษ์ จำนวน 2 จุด ได้แก่บริเวณสะพานโยทะกา ตำบลบางสมบูรณ์ และบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำนครนายก บริเวณตำบลทรายมูลนั้น ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้สั่งการให้กรมอู่ทหารเรือ จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำจังหวัดนครนายก (ฉก.ผลักดันน้ำ จว.นครนายก) โดยจัดเรือผลักดันน้ำ จำนวน 30 ลำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ จากอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตามที่จังหวัดนครนายกร้องขอ โดยในวันที่ 12 สิงหาคม ได้ทำการติดตั้งเรือผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำนครนายก ตำบลทรายมูล จำนวน 10 ลำ พร้อมเดินเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับจุดสะพานโยทะกาอยู่ในระหว่างดำเนินการติดตั้ง จำนวน 20 ลำ ให้แล้วเสร็จภายในช่วงเย็นวันที่ 13 สิงหาคม และจะทำการเดินเครื่องผลักดันน้ำทันทีเมื่อติดตั้งเสร็จ เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน อ.องครักษ์ จ.นครนายก ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
จังหวัดนครนายก ได้เกิดฝนตกปานกลางถึงหนักมาก ตกสลับหยุดต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 เป็นต้นมาในพื้นที่จังหวัดนครนายก และคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม และเดือนกันยายน 2567 โดยสถานการณ์ปัจจุบันมวลน้ำจากช่องทางน้ำต่างๆในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดนครนายก ได้ไหลลงมารวมกับน้ำฝนที่ตกในเขตพื้นที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มต่ำ ทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและท่วมบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอองครักษ์ ซึ่งหากไม่รีบเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำบางประกงเพื่อลดประมาณน้ำในแม่น้ำนครนายก จะส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรทั้ง 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลทรายมูล ตำบลบางลูกเสือ และตำบลบางสมบูรณ์ ที่มีพื้นที่การทำนา กว่า 2 หมื่นไร่ ได้รับความเสียหายอย่างมาก
ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ จัดเตรียมความพร้อมของกำลังพล เครื่องจักรกลสาธารณภัย และซักซ้อม แผนเผชิญเหตุต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม 2564 และสอดคล้องกับ มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 ของรัฐบาล โดยเฉพาะในมาตรการที่ 3 และ 6 ที่กระทรวงกลาโหมรับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งเตรียมการรองรับภัยแล้งในบางพื้นที่กรณีฝนทิ้งช่วง ตลอดจนบูรณาการและประสานการปฏิบัติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ เพื่อเร่งขุดลอกคูคลอง ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ และการทำคันกั้นน้ำ สำหรับช่วยเพิ่มพื้นที่รับน้ำและการระบายน้ำได้อย่างสะดวกรวดเร็วในห้วงฤดูฝนต่อไป