โครงการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2567
โครงการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2567
นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยรองศาสตราจารย์พิเศษ พลตำรวจโท ดร.ณรงค์ กุลนิเทศ ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ และคณะ ทำวิจัยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. โดยรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ประเมินผล สรุปผลการศึกษา ความเห็น และข้อเสนอแนะในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2567 เพื่อจัดทำรายงานให้เกิดประโยชน์และส่งผลต่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่สามารถใช้ประกอบการประเมินผลได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วประเทศ ซึ่งรายงานดังกล่าวจะนำเสนอต่อรัฐสภาต่อไป
การประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงาน และการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช.และเลขาธิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี ๒๕๖๗ ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.67 ณ ห้องลาเวนเดอร์ 2-3 โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานกล่าวเปิดงานฯ พร้อมร่วมเวทีเสวนา “เหลียวหน้าแลหลัง : การติดตามและประเมินผล งานคุ้มครองผู้บริโภคของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ในปี 2567” โดยมี ผู้ร่วมวงสนทนาในครั้งนี้ คือ รศ. (พิเศษ) พล.ต.ท.ดร.ณรงค์ กุลนิเทศ หัวหน้าโครงการจ้างที่ปรึกษาฯ อาจารย์จตุรงค์ เพิ่มรุ่งเรือง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ดร.ธชะนัน วงศ์ปัน ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะ และผู้ดำเนินรายการเสวนา ผศ.ธนวัฒ พิสิฐจินดา
นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กตป. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เนื่องจากกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ของ กสทช. มีมิติในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค มีกลุ่มเป้าหมายต้องดูแลเป็นพิเศษคือกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วย เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยหน่วยงานของ กสทช. ควรจะรับรู้ปัญหาในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายนี้และควรแก้ไขปัญหาเฉกเช่นกับผู้บริโภคที่เป็นคนปกติทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดเจนว่า งานของ กสทช. ต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในปี 2567 ของ กสทช. ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือการให้ประชาชนได้รู้เท่าทันในเรื่องการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของการถูกหลอกลวง
พร้อมทั้ง มีกิจกรรมท้ายงานฯคือ การจัดกลุ่มการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะโดยแบ่งกลุ่มย่อย 4 กลุ่ม เพื่อ”รับฟังความคิดเห็นสาธารณะในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการ ดำเนินงานและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2567”
นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กตป. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่า ความรู้ คือหัวใจเหมือนสติเตือนให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข่าวสาร ภาพ และเสียง รวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องมีความเท่าทันและมีภูมิคุ้มกันตนเองได้ นอกจากนี้ การทำงานสร้างเครือข่ายของผู้บริโภคควรสนับสนุนให้มีความรู้ความสามารถในทุกพื้นที่ทั้งนี้ ประชาชนคาดหวังว่า กสทช. จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถและทำงานบูรณาการร่วมกับ ทุกหน่วยงาน เพื่อร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วน
สำหรับโครงการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี ๒๕๖๗ ซึ่งมี นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยรองศาสตราจารย์พิเศษ พลตำรวจโท ดร.ณรงค์ กุลนิเทศ ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ และคณะทำวิจัยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ได้รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ประเมินผล สรุปผลการศึกษา ความเห็น และข้อเสนอแนะในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำปี 2567 เพื่อจัดทำรายงานให้เกิดประโยชน์
และส่งผลต่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีข้อมูลมูลข้อเท็จริงที่สามารถใช้ประกอบการประเมินผลได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและมีการรับฟังความคิดเห็นของ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วประเทศ โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 และจะจัดงานฯนี้ต่อเนื่องกระจายออกไปในภูมิภาคอีก
นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กตป. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เนื่องจากกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ของ กสทช. มีมิติในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค มีกลุ่มเป้าหมาย ต้องดูแลเป็นพิเศษคือกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วย เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยหน่วยงานของ กสทช. ควรจะรับรู้ปัญหาในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายนี้และควรแก้ไขปัญหาเฉกเช่นกับผู้บริโภค ที่เป็นคนปกติทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ชัดเจนว่า งานของ กสทช. ต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในปี ๒๕๖๗ ของ กสทช. ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการให้ประชาชนได้รู้เท่าทันในเรื่องการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของการถูกหลอกลวง
นางสาวอารีวรรณ จตุทอง กตป. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่า ความรู้ คือหัวใจเหมือนสติเตือนให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข่าวสาร ภาพ และเสียง รวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องมีความเท่าทันและมีภูมิคุ้มกันกันตนเองได้นอกจากนี้ การทำงานสร้างเครือข่ายของผู้บริโภคควรสนับสนุนให้มีความรู้ความสามารถในทุกพื้นที่
ทั้งนี้ ประชาชนคาดหวังว่า กสทช. จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถและทำงานบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วน และทางคณะ กตป.จะได้รวบรวมข้อเท็จจริง เสนอพร้อมกับรายงานกิจกรรมฯ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ต่อรัฐสภาต่อไป